การทำ SEO เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจออนไลน์ (Search Engine Optimization) ควรให้ความสำคัญเนื่องจากมันช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณถูกค้นพบโดยกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แต่ไม่ใช่วิธีการทุกแบบที่จะให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน กลยุทธ์ SEO แบ่งออกเป็นสองประเภทหลักคือ White Hat SEO และ Black Hat SEO ซึ่งทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันอย่างมากในการดำเนินการและผลลัพธ์ระยะยาว
White Hat SEO คืออะไร?
White Hat SEO คือวิธีการที่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์และข้อแนะนำของเสิร์ชเอนจิน เช่น Google วิธีนี้มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ White Hat SEO เป็นวิธีที่ปลอดภัยและยั่งยืนในระยะยาว เนื่องจากเว็บไซต์ของคุณจะได้รับการจัดอันดับอย่างถูกต้องและไม่เสี่ยงต่อการถูกลงโทษจากเสิร์ชเอนจิน
หลักการของ White Hat SEO
- การใช้คีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสม วางคีย์เวิร์ดในจุดที่สำคัญ เช่น หัวข้อเนื้อหาและแท็ก Meta แต่ต้องไม่มากเกินไปจนดูเป็นการสแปม
- การเขียนเนื้อหาคุณภาพ เนื้อหาที่ให้ข้อมูลถูกต้องและมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีการเข้าชมมากขึ้น และได้รับความไว้วางใจ
- การสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี เว็บไซต์ควรมีการออกแบบที่ใช้งานง่าย โหลดเร็ว และเป็นมิตรต่ออุปกรณ์มือถือ
ผลลัพธ์ของ White Hat SEO
เมื่อใช้หลัก SEO อย่างถูกต้อง เว็บไซต์ของคุณจะได้รับ ความน่าเชื่อถือจากเสิร์ชเอนจิน ซึ่งจะช่วยให้มีอันดับที่ดีขึ้นในระยะยาว และยังสร้าง ความพึงพอใจให้กับผู้ใช้ ที่เข้ามาในเว็บไซต์ เพราะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกสบาย
Black Hat SEO คืออะไร?
Black Hat SEO เป็นกลยุทธ์ที่ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องตามกฎของเสิร์ชเอนจินเพื่อเพิ่มอันดับของเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว แต่กลับมาพร้อมความเสี่ยงที่สูงมาก เช่น การถูกเสิร์ชเอนจินลงโทษโดยการลดอันดับ หรือแม้แต่การถูกแบนจากผลการค้นหา
เทคนิคที่ใช้ใน Black Hat SEO
- การใช้คีย์เวิร์ดซ้ำๆ มากเกินไป ใส่คีย์เวิร์ดในเนื้อหาจำนวนมากจนเกินความจำเป็น เพื่อพยายามดึงดูดเสิร์ชเอนจิน
- การสร้างลิงก์ย้อนกลับที่ไม่มีคุณภาพ การใช้ลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือการสร้างลิงก์ปลอม
- การใช้เนื้อหาซ้ำหรือคัดลอก นำเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นๆ มาใช้ซ้ำในเว็บไซต์ของตัวเอง
ผลลัพธ์ของ Black Hat SEO
แม้ว่า Black Hat SEO อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณ ติดอันดับได้รวดเร็ว แต่ความเสี่ยงที่ตามมาคือการถูกลงโทษอย่างรุนแรงจากเสิร์ชเอนจิน ซึ่งอาจส่งผลให้เว็บไซต์ถูกแบนหรือลดอันดับลงในระยะเวลาอันสั้น และทำให้เสียโอกาสในระยะยาว
กลยุทธ์ SEO แบบไหนที่ควรค่าต่อการทำมากที่สุด?
การเลือกใช้กลยุทธ์ White Hat SEO เป็นการลงทุนในระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะไม่เพียงแค่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดี ส่งผลให้พวกเขากลับมาใช้บริการอีกครั้ง ในขณะที่ Black Hat SEO แม้จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เว็บไซต์ถูกลงโทษและสูญเสียความน่าเชื่อถือในที่สุด
การใช้ White Hat SEO ยังสอดคล้องกับแนวทางของ E-E-A-T (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) ซึ่งเป็นหลักการที่เสิร์ชเอนจินใช้ในการประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ การเน้นที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีขึ้นอย่างมั่นคงและปลอดภัยในระยะยาว