SEO ปรับให้เป๊ะทำ Zero-Click Search พาเราไปอยู่หน้าแรก Google กัน

จะทำ SEO ก็ต้องรู้จักกับ Zero-Click Search หลายคนคงจะสังเกตเห็นว่าที่ผ่านมานี้เมื่อเราค้นหาคำบางคำแล้ว Google มักจะตอบคำถามของเราตรงๆ เลย โดยที่เราไม่ต้องคลิกเข้าไปในเว็บไซต์อะไรเลย! แบบนี้แหละที่เรียกว่า Zero-Click Search ครับซึ่งถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่มาแรงในวงการ SEO และการตลาดดิจิทัลเลยก็ว่าได้

อธิบายสั้นๆ ว่า Zero-Click Search คือคำตอบที่ปรากฏขึ้นในหน้าผลการค้นหาของ Google โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกเข้าเว็บไซต์ เช่น การแสดงข้อมูลจาก Featured Snippets, Knowledge Panel หรือการตอบคำถามจาก Google Assistant ในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลทันทีและไม่ต้องคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์เพื่อค้นหาคำตอบเพิ่มเติมนั้นเองครับ

Zero-Click Search คืออะไร

มาทำความเข้าใจกันแบบละเอียดกันหน่อยครับ Zero-Click Search ก็คือผลการค้นหาที่ Google จัดการแสดงข้อมูลโดยตรงบนหน้า Search Engine Result Page (SERP) โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกไปยังเว็บไซต์นั้นๆ เพียงแค่เสิร์ชคำถามหรือคำค้นที่ต้องการ ข้อมูลจะปรากฏอยู่ตรงหน้า Google แล้ว ตัวอย่างเช่น การค้นหาคำว่า “สภาพอากาศวันนี้” หรือ “ราคาทองคำวันนี้” จะมีข้อมูลปรากฏบนหน้า Google เลย โดยไม่ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์อื่นๆ

ทำไมถึงต้องสนใจ Zero-Click Search? เนื่องจากการแสดงข้อมูลในรูปแบบ Zero-Click ช่วยให้ผู้ใช้ได้คำตอบที่ต้องการอย่างรวดเร็ว นี่แหละคือโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะได้รับการเลือกให้แสดงในผลการค้นหาที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งจะทำให้คุณมีโอกาสติดหน้าแรกของ Google โดยไม่ต้องรอให้ผู้ใช้คลิกเข้าเว็บไซต์

Zero-Click Search สำคัญยังไงกับ SEO

การที่เว็บไซต์ของเราจะติดหน้าแรก Google โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกเข้าไปนั้นสำคัญมากในยุคนี้ เพราะว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่เลือกที่จะคลิกที่ข้อมูลที่ Google แสดงออกมาโดยตรง เช่น Featured Snippets, Knowledge Panel หรือคำตอบในรูปแบบอื่นๆ แทนที่จะคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ ทำให้เว็บไซต์ที่ไม่แสดงผลในรูปแบบเหล่านี้อาจเสียโอกาสในการรับคลิกจากผู้ใช้

ดังนั้นการทำ SEO ให้เหมาะสมกับ Zero-Click Search จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยการปรับเว็บไซต์ให้เข้ากับแนวทางการแสดงข้อมูลของ Google จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดหน้าแรกได้มากขึ้น

วิธีทำ SEO ให้ปัง และติดหน้าแรก Google แบบ Zero-Click Search

1. เน้นการใช้ Featured Snippets นี่คือหนึ่งในรูปแบบที่ Google ชอบนำข้อมูลไปแสดงบนหน้าแรก ผู้ใช้จะเห็นคำตอบที่สรุปได้ทันทีโดยไม่ต้องคลิกไปที่เว็บไซต์ และ Google ก็จะดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ที่มีการเขียนคำตอบที่ตรงประเด็นและกระชับที่สุด วิธีทำให้เว็บติด Featured Snippets
   • เขียนคำตอบแบบสรุป: ทำเนื้อหาที่เป็นคำตอบสั้นๆ ชัดเจน ไม่ยาวเกินไป เช่น ถาม “วิธีทำ SEO สำหรับ Zero-Click Search” ให้ตอบโดยตรงว่า “1. ใช้การเขียนคำตอบแบบสรุป 2. เพิ่ม Structured Data 3. ทำเว็บไซต์ให้โหลดเร็ว”
   • ใช้หัวข้อที่ชัดเจน: ใช้คำถามในหัวข้อหลัก เช่น “ทำ SEO สำหรับ Zero-Click Search อย่างไร?”
   • จัดรูปแบบให้เหมาะสม: ใช้รายการ, ตาราง หรือการแบ่งเนื้อหาชัดเจนเพื่อให้ Google ดึงข้อมูลไปแสดงได้ง่าย
2. ใช้ Structured Data (Schema Markup) การใช้ Structured Data หรือ Schema Markup ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์เราได้ง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ของเราจะถูกเลือกให้แสดงในรูปแบบต่างๆ เช่น Rich Snippets หรือ Knowledge Panel ทำอย่างไรให้เว็บไซต์ใช้ Structured Data ได้ดี
   • เพิ่ม Schema Markup ในทุกหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ Google มักจะดึงไปแสดง เช่น FAQ หรือ HowTo
   • เลือกประเภท Schema ที่เหมาะสม เช่น ถ้าเนื้อหาของคุณเป็นคำถามคำตอบ ใช้ FAQPage Schema หรือถ้าคุณให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานใช้ HowTo Schema
3. ตอบคำถามให้ตรงประเด็น Google ชอบข้อมูลที่ตรงไปตรงมาและตอบคำถามที่ผู้ใช้ค้นหาได้ตรงประเด็นที่สุด ถ้าเว็บไซต์ของเราตอบคำถามได้ชัดเจน เราก็มีโอกาสสูงที่จะถูกดึงไปแสดงใน Zero-Click Search วิธีทำเนื้อหาให้ตรงประเด็น
   • ใช้คำถามในหัวข้อหลัก: เช่น “วิธีทำ SEO สำหรับ Zero-Click Search”
   • ให้คำตอบที่ชัดเจน: ใช้การเขียนที่ตรงประเด็น เช่น “ให้เขียนคำตอบสั้นๆ และกระชับ”
   • ทำเนื้อหาที่ตอบโจทย์: ตอบคำถามโดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกไปที่เว็บไซต์เพิ่มเติม
4. ทำให้เว็บโหลดเร็วสุดๆ การที่เว็บไซต์ของเรามีความเร็วในการโหลดที่ดีเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ Google พิจารณา หากเว็บไซต์โหลดช้า ผู้ใช้จะไม่รอและออกจากเว็บไซต์ทันที ซึ่งส่งผลเสียต่อ SEO วิธีเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บ
   • ลดขนาดไฟล์ภาพ: ใช้เครื่องมือที่ช่วยลดขนาดภาพโดยไม่เสียคุณภาพ
   • ใช้ CDN (Content Delivery Network): ใช้บริการ CDN เพื่อลดเวลาในการโหลดเว็บไซต์
   • ตรวจสอบความเร็ว: ใช้เครื่องมือเช่น Google PageSpeed Insights เพื่อตรวจสอบว่าเว็บของเรามีความเร็วในการโหลดที่ดีหรือไม่
5. เพิ่มข้อมูลที่ Google สามารถดึงไปใช้ได้ง่าย Google จะชอบเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลในรูปแบบที่สามารถดึงไปแสดงในผลการค้นหาได้ง่าย เช่น การแสดงในรูปแบบของรายการคำตอบสั้นๆ หรือการใช้ข้อมูลแบบสรุป วิธีเพิ่มข้อมูลให้ Google ใช้ได้ง่าย
   • ใช้หัวข้อย่อยที่ชัดเจน: เช่น ใช้คำถามในหัวข้อหลักและตอบแบบกระชับ
   • แสดงเนื้อหาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย: ใช้การแบ่งเนื้อหาเป็นหมวดหมู่หรือข้อสรุปที่ชัดเจน

สรุปท้ายบทความ

การทำ SEO สำหรับ Zero-Click Search คือการปรับเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับวิธีที่ Google จัดการแสดงข้อมูลบนหน้าแรก โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกเข้าไปในเว็บไซต์ วิธีการทำ SEO แบบนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการแสดงในรูปแบบต่างๆ เช่น Featured Snippets, Knowledge Panel หรือคำตอบสั้นๆ บนหน้า Google ที่จะทำให้คุณติดหน้าแรกได้อย่างมั่นคง

ถ้าทำตามคำแนะนำนี้ รับรองว่าคุณจะมีโอกาสอยู่ใน Zero-Click Search และติดหน้าแรกของ Google โดยไม่ต้องรอให้ผู้ใช้คลิกเลยหากสนใจให้เราช่วยดูแลเรื่องหรือหรือขอคำปรึกษา มาดูรายละเอียดก่อนครับ https://www.moveonmarketing.com/seo