เทคนิคการเขียน SEO ให้มีคุณภาพ ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการจัดอันดับ

การเขียน SEOเป็นงานศิลปะอีกอย่างหนึ่งของนักธุรกิจในปัจจุบัน งานของนักเขียน SEO คือการเขียนเนื้อหาให้เหมาะสำหรับเครื่องมือการค้นหาอย่าง Google, Yahoo และอื่นๆ ผู้ใช้สามารถได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเนื้อหาที่คุณเขียน เพื่อให้หน้าเว็บติดอันดับ สิ่งที่คุณควรเรียนรู้คือวิธีการนำหลักการพื้นฐานของเนื้อหา SEO ไปใช้ในทางปฏิบัติจริง

บทความที่เรากำลังจะให้คุณเรียนรู้ต่อไปนี้ สิ่งที่จำเป็นอย่างมากต่อการเขียน SEO จะคอยให้ความรู้และอธิบายว่าการเขียน SEO คืออะไรแล้ว วิธีเขียนที่เราได้รวบรวมมานี้ทำให้คุณมั่นใจได้มากขึ้นว่าเนื้อหาที่คุณเขียนลงไปเป็นมิตรกับ Search Engine มากขนาดไหน ที่สำคัญไปกว่านั้น การเขียน SEO ไม่จำเป็นต้องมีการชำนาญในด้านนี้ ขอเพียงแค่คุณมีทักษะการเขียนคำโฆษณาพื้นฐานของ SEO เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

การเขียน SEO คืออะไร

การเขียน SEO เป็นกระบวนการเขียนเนื้อหาที่เครื่องมือค้นหา SERP สามารถเข้าใจได้ง่าย การเพิ่มบทความหรือ Keyword ลงในเนื้อหาของคุณให้มีคุณภาพ จะสามารถทำให้ดึงดูดผู้คลิกเข้ามาได้มากขึ้น การเขียน SEO โดยไม่ใส่ Keyword เรียกอีกอย่างว่าการเขียนคำโฆษณา SEO หรือการเขียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการค้นหา

วิธีการเขียน SEO

ขั้นตอนด้านล่างนี้ ให้คุณเป็นนักเขียนที่ดีและมีคุณภาพมากขึ้น

การเลือกใช้ Keyword หลัก (ทั้งย่อหน้าแรก และย่อหน้าสุดท้าย)
สร้างชื่อเพจของคุณ
สร้าง URL ที่เป็นมิตรกับ SEO (มีความหมายเชื่อมโยงกับเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ)
เขียนเนื้อหาและเพิ่ม Content ลงไป
เพิ่ม Keyword สำคัญในย่อหน้าแรก
Title ของเรื่องควรมี Keyword อยู่
เพิ่มเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับหัวข้อ
ทำ Backlink ภายในเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นๆ ของเว็บไซต์ของเรา
เว็บไซต์ต้องมีความน่าเชื่อถือ ไม่ลอกเลียนบทความจากเว็บอื่นมาลงของตัวเอง
ความเหมาะสมของเนื้อหาและรูปภาพ

รากฐานที่สำคัญของธุรกิจสมัยใหม่ของคือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับ หากคุณนั้นเป็นผู้ขายอีคอมเมิร์ซคุณจะไม่สามารถขยายฐานลูกค้าที่จงรักภัคดีต่อแบรนด์ได้ ถ้าคุณไม่มีฝีมือในการดันอันดับขึ้นไปในหน้าแรกตามความต้องการของลูกค้า และนี่คือสถิติบางส่วนที่จะพิสูจน์ตัวแปรสำคัญของ SEO ในการทำอันดับต้นๆ ของการเข้าชมทั้งหมดต้องมาจากเครื่องมือการค้นหาอย่าง

ผู้ใช้ 75% อยู่ในหน้าแรกของการค้นหา
มีคนพูดไว้ว่า 60% มาจากการปรับปรุง SEO แบบสายขาว ซึ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของการตลาดเชิงธุรกิจ
อัตราการคลิกผ่านของตำแหน่งแรกในผลการค้นหาทั่วไปของ Google มีเพียงแค่ 34% เท่านั้น

คุณควรสร้างกลยุทธ์ที่ดีสำหรับเว็บไซต์ของคุณ ปรับเปลี่ยนเลือกใช้เทคนิคคำหลักที่ออกแบบมาเพื่อเว็บไซต์อย่างรอบคอบ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อต่ออัลกอริทึมเครื่องมือค้นหาของ Google มากขึ้น การค้นหาคำหลักสำหรับหัวข้อของคุณนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากต่อเครื่องมือค้นหา และบทความที่ทุกคนจะได้อ่านต่อไปนี้คือหลักการทำ SEO พื้นฐานแบบง่ายๆ

Brainstorming : ขั้นตอนแรกคือจดคำหลักทั้งหมดที่คุณคิดไว้
Keyword Planner : นำคำหลักทั้งหมดที่คุณคิดไว้ ไปที่เครื่องมือวางแผนคำหลัก เพื่อช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
Google searches สำรวจเพจที่มีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆ ที่ได้มาจาก Google Searches และดูคำแนะนำของ Google เพิ่มเติมเพื่อการวางแผนทำบทความที่มีคุณภาพ
Q&A websites : หาคำถามเพื่อใช้เป็นคำตอบ เมื่อเราได้รับคำถามเข้ามามากมายในแต่ละวัน เราสามารถตรวจสอบคำถามที่พบบ่อย และนำคำถามเหล่านั้นมาเขียนเป็นบทความได้ เนื่องจากมีผู้สนใจอยู่แล้วการทำให้บทความติดอันดับก็อาจไม่ใชเรื่องที่ยากอย่างที่คิด

แท็กชื่อเรื่อง Title Tags

ชื่อเรื่องเป็นองค์ประกอบที่สองของ SEO ที่คุณต้องดูตามความเหมาะสมของอัลกอริทึม เนื่องจาก AI ตัวนี้จะคอยวิเคราะห์พาดหัวเรื่องของคุณเพื่อตรวจจับหัวเรื่องและวางตำแหน่งในโพสต์ที่คล้ายกัน และนี้คือบทบาทที่สำคัญอบ่างมากของ Keyword ใน Title Tags

แต่ละชื่อพาดหัวเรื่องของคุณต้องมีคีย์เวิร์ดเพื่อให้ Google สามารถเข้าใจถึงเนื้อหาของคุณ นอกจากนั้นคุณสามารถใส่ชื่อแบรนด์ในชื่อเรื่องได้ เพราะทำให้ผู้อ่านได้รู้จักเรามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หัวข้อเรื่องควรมีจุดดึงดูดความสนใจต่อผู้ใช้ จะคอยทำหน้าที่กระตุ้นการตัดสินใจเชิญชวนให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับเนื้อหาของคุณมากยิ่งขึ้น หากคุณนั้นไม่มั่นใจว่าหัวข้อที่คุณคิดน่าสนใจต่อผู้อ่านหรือไม่ ก็สามารถหาเครื่องมือตรวจสอบออนไลน์เพิ่มเข้ามาได้ เพื่อช่วยวิเคราะห์ชื่อเรื่อง โครงสร้างโดยรวมไวยากรณ์ และประเมินคำที่เหมาะสมสำหรับบทความนั้นๆ

คำอธิบายในกล่อง (Meta Description)

นอกจากคีย์เวิร์ดในหัวข้อหลักที่เป็นจุดสนใจของผู้คลิกแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นอย่างคำอธิบายในกล่อง (Meta Description) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ บทความขึ้นมาอีกได้อีกหนึ่งระดับ เป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้คลิกลิงค์และเข้ามาอ่านเนื้อหาได้บทความได้มากขึ้น เนื่องจากผู้ใช้โดยเฉลี่ยมักจะมองสองสิ่งนี้เป็นหลักก่อนที่จะคลิกเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นก็คือ หัวข้อหลักและคำอธิบายเพิ่มเติมนั้นเอง

เผยแพร่เนื้อหาคุณภาพสูง (Publish High-Quality Content)

ทุกคนบนโลกนี้สามารถหาความรู้เกี่ยวกับ SEO ได้จากทั่วทุกที่ในโลก แต่ก็ใช่ว่าบทความที่คุณเขียนจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้ทุกคน เว้นแต่เนื้อหาที่คุณเผยแพร่ออกไปนั้นมีคุณภาพที่สูงบนเว็บไซต์ และบทความที่สามารถทำอับดับได้ดีบทเว็บไซต์มักจะเป็นบทความประเภทที่สามารถอธิบายข้อมูลเฉพาะกลุ่มและแก้ไขปัญหาของผู้ใช้ตัวอย่างเช่นการรีวิวสินค้า คุณควรบอกถึงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ค้าปลีกออนไลน์ เนื้อหาวิดีโอที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถได้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้

การตรวจสอบ SEO (SEO Audit)

จำเป็นต้องมีการตรวจสอบเป็นประจำ หากคุณต้องการรักษาระดับคุณภาพการทำงานของเว็บไซต์แบบระยะบาว บางครั้งการหาสาเหตุหรือจุดด้อยที่ทำให้เว็บไซต์ทำงานช้าลงก็เป็นเรื่องที่จำเป็นต่ออันดับอย่างมาก โดยเริ่มต้นจากลำดับขั้นตอนต่อไปนี้

ตรวจสอบชื่อเรื่องและคำอธิบายให้ครบทุกหน้า
ตรวจสอบการเพิ่มประสิทธิภาพคำหลักสำหรับแต่ละโพสต์
วิเคราะห์โครงสร้าง URL ของบทความที่คุณเผยแพร่ออกไป
วิเคราะห์โครงสร้าง URL ของบทความ
ตรวจเช็คความเหมาะสมของหน้าเว็บบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เพื่อดูว่าเว็บไซต์ของคุณถูกปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานสมาร์ทโฟนหรือไม่

SEO เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันอย่างมาก การมีพื้นฐานของเว็บไซต์ที่ดีจะทำให้ได้รับความสนใจจากอักอรึทึมของ Google มากยิ่งขึ้น ผู้ใช้ที่ค้นหาผ่านเครื่องมือ SERP ให้ความสนใจในเนื้อหา การนำหลักการพื้นฐานของ SEO เหล่านี้ไปปรับใช้จะสามารถช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณและเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้มากขึ้นได้