ทำไมราคาทำ SEO ถึงแตกต่างกัน

เคยสงสัยกันมั้ย ว่าทำไมบางคีย์เวิร์ดเหมือนต้องขายไตจ่าย แต่บางคำนี่ถูกจนน่าตกใจ ทำไมบางคีย์เวิร์ด SEO ราคาหลักพัน แต่บางคำราคาพุ่งหลักแสน มันขึ้นอยู่กับอะไร? วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ ว่าทำไมราคาของคีย์เวิร์ดถึงไม่เท่ากัน และมีปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อราคา SEO

แข่งขันสูง คนแย่งกันยิงโฆษณา

ลองนึกภาพเวลามีของลดราคาแล้วทุกคนแย่งกันซื้อ! คีย์เวิร์ดก็เหมือนกันครับ ถ้าคำไหนเป็นที่ต้องการมาก เช่น “จำนำรถ” หรือ “รับสร้างบ้าน” คนแห่กันมายิงโฆษณาไม่ยั้ง ราคาเลยพุ่ง

ยิ่งมีธุรกิจเข้ามาแข่งกันจองตำแหน่งมากเท่าไหร่ คีย์เวิร์ดนั้นก็ยิ่งแพงขึ้น เพราะทุกเจ้าต้องการให้เว็บตัวเองขึ้นมาอยู่หน้าแรกให้ได้ จึงเกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น และแน่นอนว่าทำให้ ต้นทุนค่าโฆษณา (CPC – Cost per Click) สูงขึ้นไปด้วย

แข่งขันสูง คนแย่งกันยิงโฆษณา

มูลค่าต่อการขาย (Conversion Value) สูง

คีย์เวิร์ดที่ลูกค้าเสิร์ชแล้วมีโอกาสซื้อสูงมาก มันจะถูกดันราคาให้สูงตาม เช่น “ทำวีซ่าไปอเมริกา” ถ้าลูกค้าปิดดีลได้ คือกำไรมหาศาล ดังนั้น ธุรกิจที่ทำเงินได้เยอะจากคีย์เวิร์ดนั้น ก็พร้อมจะทุ่มงบเพื่อชิงอันดับ

พวกนี้คือคำที่แค่ลูกค้าเสิร์ชแล้วปิดดีลได้ทันที ทำเงินกันทีเป็นแสน! ตัวอย่างคีย์เวิร์ดที่มูลค่าสูง เช่น:

  • สินค้าราคาสูง: เช่น “รับสร้างบ้าน”, “ศัลยกรรมเกาหลี”, “ติดฟิล์มเซรามิก”
  • บริการเฉพาะทาง: เช่น “ที่ปรึกษากฎหมาย”, “จองตั๋วเครื่องบินราคาถูก”
  • B2B (Business-to-Business): เช่น “โปรแกรมบัญชีออนไลน์”, “ERP Software”

ความยากของคีย์เวิร์ด

บางคีย์เวิร์ดนี่เหมือนสอบเข้าแพทย์เลยครับ! ดันอันดับยากโคตร ๆ ต้องมีคอนเทนต์ที่ดี มี Backlink เสริม ไม่ใช่แค่ใส่คีย์เวิร์ดพร่ำเพรื่อแล้วจะขึ้นหน้าแรกได้ง่าย ๆ

ปัจจัยที่ทำให้คีย์เวิร์ดดันยาก

  • มีคู่แข่งที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว เช่น เว็บไซต์ใหญ่ ๆ ที่ติดอันดับมานาน 
  • ต้องใช้ SEO On-Page และ Off-Page เยอะ เช่น ต้องสร้างเนื้อหาให้ครบ + มีลิงก์ภายนอกช่วยเสริม 
  • Google ให้ความสำคัญกับคุณภาพเนื้อหา มากกว่าแค่จำนวนลิงก์ 
ความยากของคีย์เวิร์ด

ประเภทของคีย์เวิร์ด (Short-Tail vs Long-Tail) เลือกให้ถูกแล้วจะไม่เจ็บ!

คีย์เวิร์ด SEO มีทั้งแบบ Short-Tail Keywords และ Long-Tail Keywords ซึ่งมีผลต่อราคาและโอกาสในการแข่งขัน

  • Short-Tail Keywords เช่น “มือถือ” หรือ “บ้าน” คนค้นหาเยอะ แข่งขันสูง เจาะกลุ่มเป้าหมายยาก เพราะคำกว้างเกินไป
  • Long-Tail Keywords เช่น “ซื้อมือถือ 5G ราคาไม่เกิน 10,000″คนค้นหาน้อยกว่า แต่เป็นกลุ่มที่พร้อมซื้อ มีโอกาสติดอันดับได้ง่ายกว่า เพราะแข่งขันน้อยกว่า

ดังนั้น ถ้าเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือเพิ่งเริ่มทำ SEO การเลือก Long-Tail Keywords จะคุ้มค่ากว่า เพราะเข้าถึงลูกค้าที่ตรงกลุ่มได้ดีกว่า

แล้วเราควรเลือกคีย์เวิร์ดแบบไหน? เอาดี ๆ นะ ไม่งั้นงบปลิว!

ไม่จำเป็นต้องไปแย่งกับเจ้าตลาดเสมอไป คีย์เวิร์ดแพงไม่ได้แปลว่าดีที่สุดเสมอไป ถ้าธุรกิจของคุณเหมาะกับ คีย์เวิร์ดเฉพาะทาง และสามารถ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุด อาจใช้ Long-Tail Keywords ให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากว่า

ตัวอย่างการเลือกคีย์เวิร์ดให้เหมาะสม

  • ธุรกิจที่ต้องการสร้างแบรนด์ อาจต้องใช้คีย์เวิร์ดกว้าง ๆ และแข่งขันสูง
  • ธุรกิจที่ต้องการลูกค้าที่พร้อมซื้อ อาจเลือกคีย์เวิร์ดเฉพาะทางที่เน้น Conversion
  • ถ้าเพิ่งเริ่มทำ SEO และมีงบจำกัด ควรเลือกคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันต่ำและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี
แล้วเราควรเลือกคีย์เวิร์ดแบบไหน_ เอาดี ๆ นะ ไม่งั้นงบปลิว!

สรุปให้เข้าใจง่าย เลือกคีย์เวิร์ดให้เป็น แล้วงบจะไม่ปลิว!

  • คีย์เวิร์ดแพงเพราะ มีการแข่งขันสูง และ สร้างรายได้ต่อคลิกเยอะ ยิ่งมีคนอยากอยู่หน้าแรกมากเท่าไหร่ ราคาก็พุ่งสูงเท่านั้น
  • บางคีย์เวิร์ดดันยากเพราะ ต้องใช้ SEO คุณภาพสูง + Backlink เยอะ ต้องลงทุนกับคอนเทนต์ให้ดี ไม่ใช่แค่หวังพึ่งคีย์เวิร์ดอย่างเดียว
  • การเลือกคีย์เวิร์ดที่ดี ต้องดู Short-Tail vs Long-Tail ว่าแบบไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณบางคำอาจถูกกว่าแต่ให้ผลลัพธ์ดีกว่า เพราะเจาะกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ
  • SEO ไม่ใช่แค่จ่ายแพง = ได้อันดับดี แต่ต้องเลือกคีย์เวิร์ดที่ เหมาะกับธุรกิจ และ คุ้มค่ากับการลงทุน ด้วยคิดให้รอบคอบก่อนทุ่มงบ เพราะบางครั้งจ่ายน้อยแต่ได้ผลดีกว่า

ทำ SEO ให้ปังต้องเลือกคีย์เวิร์ดให้เป็น! ไม่ใช่เห็นคีย์ไหนแพงแล้วคิดว่าเวิร์คเสมอไป ต้องเลือกให้เข้ากับธุรกิจและงบประมาณของเราด้วย! คิดให้ดีว่าคุณต้องการอะไร แล้วลงทุนให้คุ้มที่สุด

หากสงสัยหรืออยากทราบบริการอย่างละเอียด : www.moveonmarketing.com/seo

ติดต่อเราได้หลายช่องทาง