ไม่ต้องเป็นโปรก็ทำ SEO ด้วย Content Hub ได้นะ ถ้าบอกแล้วจะทำไมล่ะ

SEO (Search Engine Optimization) ฟังดูเหมือนเรื่องยากใช่ไหมครับ แต่เดียวก่อนหลายคนคิดว่าแค่ต้องเป็นโปรหรือเรียน SEO มาโดยตรงถึงจะทำได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ต้องเลย วันนี้เรามีเทคนิคง่ายๆ มาบอกครับถ้าบอกแล้วต้องทำด้วยนะ Content Hub หรือการสร้าง “ศูนย์รวมเนื้อหาบนเว็บ” ที่จะช่วยให้เว็บของคุณติดอันดับใน Google ได้ง่ายขึ้นแถมยังเป็นผลดีต่อผู้อ่านด้วยนะ แบบไม่ต้องไม่โปรหรือผู้เชี่ยวชาญ SEO ก็ทำกันได้ครับ

เข้าใจความหมายของ Content Hub กันก่อน

ง่ายๆ เลยนะครับ Content Hub คือการสร้างหน้าเว็บที่รวมเนื้อหาหลายๆ บทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเดียวกัน เพื่อให้ทั้ง Google และคนเข้าเว็บเข้าใจได้ทันทีว่าเว็บเรามีข้อมูลครบถ้วนในหัวข้อนั้นๆ เท่านี้เองครับคำว่า Content Hub

เช่น ถ้าคุณมีเว็บไซต์ขายของออนไลน์ คุณก็อาจจะทำ Content Hub ที่เกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน พร้อมกับมีบทความย่อยๆ ที่เจาะลึกในเรื่องนั้นๆ เช่น “การใช้ผลิตภัณฑ์ X กับการดูแลสุขภาพ” หรือ “วิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ X ให้ตรงกับความต้องการ” เป็นต้น

ทำไม Content Hub ถึงสำคัญสำหรับ SEO

ช่วยให้ Google เข้าใจเว็บเราได้ดีขึ้น

เมื่อเรามีการเชื่อมโยงบทความใน Content Hub อย่างเป็นระเบียบ Google จะเห็นว่าเว็บเรามีข้อมูลครบและเชื่อถือได้ ทำให้เว็บของเราได้รับคะแนน SEO ที่ดีขึ้น

มีโอกาสติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google

Content Hub ช่วยให้เว็บของเรามีลิงก์ภายใน (Internal Links) ที่เชื่อมโยงเนื้อหากันไปหมด ถ้า Google มองว่าเนื้อหาครบครัน ก็จะทำให้มีโอกาสขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาได้

ทำให้คนอยู่เว็บนานขึ้น (Dwell Time)

การเชื่อมโยงบทความและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันจะทำให้คนที่เข้ามาที่เว็บเราใช้เวลาอยู่ในนั้นนานขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่ Google จะให้คะแนน SEO เพิ่มขึ้น

สร้าง Internal Links ที่ดี

Content Hub คือการสร้างโครงสร้างลิงก์ที่ดีภายในเว็บ ทำให้ Google เข้าใจว่าเนื้อหาของเราเกี่ยวข้องกันอย่างไร และง่ายต่อการจัดอันดับ

วิธีทำ Content Hub ง่ายๆ สำหรับ SEO

เลือกหัวข้อหลักให้ดี

เริ่มต้นจากการเลือกหัวข้อที่คุณอยากให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่น เช่น “การดูแลสุขภาพ” หรือ “การทำ SEO” แล้วสร้างเนื้อหาหลายๆ บทที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้น พยายามเลือกหัวข้อที่มีความยาวและครอบคลุม (ไม่ใช่แค่หัวข้อเล็กๆ ที่ไม่สามารถขยายออกไปได้)

สร้างหน้า Hub หลัก (Landing Page)

หน้า Hub คือหน้าที่จะรวบรวมบทความทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลัก ตัวอย่างเช่น ถ้าเลือกทำ Content Hub เรื่อง “การทำ SEO” หน้า Hub นี้ก็จะรวมทุกบทความเกี่ยวกับ SEO รวมถึงลิงก์ไปยังบทความอื่นๆ ที่เจาะลึกในเรื่องย่อยๆ อย่าง “Keyword Research“, “On-page SEO”, “Link Building” เป็นต้น

เขียนบทความย่อยๆ ให้ครบถ้วน

อย่าลืมเขียนบทความให้ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์และตรงประเด็น เพื่อให้ทั้ง Google และคนอ่านรู้ว่าเนื้อหาของเรามีคุณค่า ใช้คำที่เหมาะสมกับคนอ่าน และอย่าลืมใช้ Long-tail Keywords หรือคำค้นหาย่อยๆ ให้ Google ค้นหาได้ง่ายขึ้น

เชื่อมโยงบทความย่อยกลับไปที่หน้า Hub

ทุกบทความที่เขียน ควรมีลิงก์กลับไปยังหน้า Hub หลัก เพื่อให้ทั้ง Google และผู้ใช้สามารถเห็นการเชื่อมโยงของเนื้อหาทั้งหมดในเว็บได้

ใช้ WordPress ทำ Content Hub ง่ายๆ

ถ้าคุณใช้ WordPress อยู่แล้ว ก็สามารถใช้ Plugins อย่าง Yoast SEO หรือ RankMath เพื่อช่วยจัดการ SEO ในแต่ละหน้าได้อย่างง่ายดาย ใช้ Categories และ Tags เพื่อจัดระเบียบเนื้อหาให้เข้าถึงง่ายและเพิ่มโอกาสให้ Google เข้าใจว่าหน้าไหนสำคัญที่สุด

ตัวอย่างการทำ Content Hub บน WordPress

ลองคิดถึงเว็บไซต์ที่ขายคอร์สออนไลน์ที่เกี่ยวกับ การตลาดดิจิทัล หรือ SEO บน WordPress ก็สามารถสร้างหน้า Hub ที่รวบรวมคอร์สทั้งหมดไว้ แล้วเชื่อมโยงไปยังบทความย่อยๆ ที่อธิบายเทคนิคต่างๆ อย่างละเอียด หรืออาจจะเป็นคอร์สที่เกี่ยวกับการใช้โซเชียลมีเดีย การทำ SEO สำหรับเว็บ หรือวิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์ เป็นต้น

สรุปท้ายบทควาวครับ

ทำ Content Hub ไม่ได้ยากเลยจริงๆ อย่างที่คิด แต่เข้าใจได้ครับเพราะศัพท์มันดูอลังการมากเลย แต่ถ้าเราเข้าใจมันก็เพียงแค่เลือกหัวข้อที่คุณเชี่ยวชาญและสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับมันให้ครบถ้วน พร้อมทั้งเชื่อมโยงกันไปมาในเว็บ จะช่วยให้เว็บของคุณติดอันดับ Google ได้ง่ายขึ้น แบบไม่ต้องมีทักษะโปรเลย!

ไม่ต้องเครียดหรือคิดว่า SEO เป็นเรื่องยากแค่เริ่มต้นจากการสร้าง Content Hub และดูผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกันนะครับสำหรับใครที่กำลังหาที่ปรึกษาหรือให้ช่วยทำ SEO ดูรายละเอียดก่อนได้เลยครับ Moveonmarketing.com/seo