15 ปลั๊กอิน SEO WordPress 2025 ที่ต้องมีติดไว้ในเว็บ

จะทำ SEO บน WordPress ทั้งทีต้องใช้ทั้งเวลา อีกอย่างก็ต้องใช้เครื่องมือที่ดีและเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณด้วยนะครับ ถ้าคุณยังไม่ได้ใช้ปลั๊กอิน SEO ที่ดีที่สุดในปี 2025 ที่เราแนะนำบอกเลยว่าพลาดแล้ว เพราะการใช้ปลั๊กอินที่ดีจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ ติดอันดับบน Google ได้ง่ายขึ้นและจัดการหน้าเว็บไซต์ได้รวดเร็วขึ้น และนี่คือ 15 ปลั๊กอิน SEO ที่ควรมีในเว็บไซต์ WordPress ของคุณเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตและได้รับการจัดอันดับบน Google ครับ

Yoast SEO

Yoast SEO คงไม่ต้องพูดถึงมากครับตัวนี้แต่ให้เป็นที่ 1 เลยครับ ทุกคนรู้จักดีอยู่แล้ว ปลั๊กอินนี้ช่วยคุณ ปรับแต่ง meta tags, sitemaps, และ focus keywords รวมถึงมีการวิเคราะห์ที่เข้าใจง่ายสำหรับทุกคนที่ทำ SEO นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ On-Page SEO ช่วยให้คุณเพิ่มการใช้งาน keyword ได้อย่างถูกต้อง ทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการจัดอันดับดีขึ้นไม่ว่าจะมือใหม่ มือเก๋า ใช้หมดครับตัวนี้แนะนำเลย

ทำไมต้องใช้ Yoast SEO

1. ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่ครับ
2. การแนะนำการใช้คีย์เวิร์ด ช่วยให้ค้นหาได้ง่าย
3. ปรับแต่งได้ทุกหน้า สามารถปรับแต่งได้ในแต่ละหน้าเว็บของคุณได้เลย

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน Yoast SEO

• wordpress.org/plugins/wordpress-seo/

Rank Math SEO

Rank Math ถือเป็นตัวเลือกที่หลายคนหลงรักในปี 2025 ครับ หรือก่อนหน้านี้เพราะมีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยและไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะฟีเจอร์ Rich Snippets และ SEO Audit ที่สามารถช่วยตรวจสอบปัญหาของ SEO บนเว็บไซต์ได้ง่ายสุดๆครับ

ทำไมต้องใช้ Rank Math SEO

1. ฟีเจอร์ครบครัน: ช่วยปรับ SEO ทั้งหมดในเว็บไซต์
2. ใช้งานฟรี: มีเวอร์ชันฟรีที่มีฟีเจอร์ครบครัน

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน Rank Math SEO

• wordpress.org/plugins/seo-by-rank-math/

All in One SEO Pack

All in One SEO Pack เป็นอีกปลั๊กอินที่มาพร้อมกับการตั้งค่าที่ สะดวกและรวดเร็ว รองรับการทำ SEO สำหรับ WooCommerce และการปรับแต่ง SEO title และ meta description สำหรับแต่ละหน้าเว็บครับตัวนี้ก็ง่ายแต่ก็แล้วแต่ความถนัดครับตัวนี้ก็ดี

ทำไมต้องใช้ All in One SEO Pack

1. การตั้งค่าง่าย ตั้งค่าได้ง่ายแม้จะเป็นมือใหม่
2. เชื่อมต่อ Google Analytics สะดวกในการเช็คผลลัพธ์

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน All in One SEO Pack

• wordpress.org/plugins/all-in-one-seo-pack/

SEOPress

SEOPress เป็นปลั๊กอินที่ช่วยให้คุณทำ SEO ได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การสร้าง XML Sitemaps, Redirection, การเพิ่ม Schema Markup ซึ่งจะช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ดีขึ้น

ทำไมต้องใช้ SEOPress

1. ฟีเจอร์จัดเต็ม รองรับทุกอย่างที่เกี่ยวกับ SEO
2. ใช้งานง่าย ไม่มีความยุ่งยากในการตั้งค่า

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน SEOPress

• wordpress.org/plugins/wp-seopress/

WP Rocket

โหลดเว็บไซต์ช้าอาจทำให้คุณสูญเสียคนเข้าเว็บของคุณได้นะครับแต่ช้าก่อนเรามีตัวช่วยครับทุกคน WP Rocket ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ โหลดเร็วขึ้น โดยการใช้ cache และ lazy load สำหรับรูปภาพและสื่ออื่นๆ บอกเลยว่าของมันต้องมีครับ

ทำไมต้องใช้ WP Rocket

1. เพิ่มความเร็ว เว็บโหลดเร็วขึ้นแน่นอน
2. ประหยัดเวลา ตั้งค่าได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน WP Rocket

• https://wp-rocket.me/

Smush

เป็นอีกหนึ่งปลั๊กอินที่เราอยากแนะนำครับ Smush ช่วยให้คุณ บีบอัดภาพ โดยที่ไม่ลดคุณภาพของภาพ ทำให้เว็บของคุณ โหลดเร็วขึ้น และ ไม่เสียพื้นที่เก็บข้อมูล บนเซิร์ฟเวอร์สำหรับเว็บที่ใช้รูปเยอะและต้องการความคมชัดครับ

ทำไมต้องใช้ Smush

1. บีบอัดภาพได้เร็ว ลดขนาดภาพอย่างมีประสิทธิภาพ
2. รองรับทุกขนาดภาพ เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีภาพเยอะๆ

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน Smush

• wordpress.org/plugins/wp-smushit/

Schema Pro

การแสดงผลในรูปแบบ Rich Snippets จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นในหน้า Search Results การใช้ Schema Markup กับ Schema Pro จะทำให้คุณมีโอกาสแสดงผลที่ดีกว่าใน Google และเพิ่มการคลิกครับ

ทำไมต้องใช้ Schema Pro

1. เพิ่มความน่าสนใจ ข้อมูลแสดงในรูปแบบที่โดดเด่น
2. การตั้งค่าอัตโนมัติ ลดเวลาในการตั้งค่า

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน Schema Pro

• https://wpschema.com/

Broken Link Checker

สายทำ SEO ต้องมีไว้แน่นอนครับตัวนี้ ลิงก์เสียเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันจะทำให้ Google ลดคะแนน SEO ของคุณ Broken Link Checker ช่วยตรวจสอบลิงก์เสียบนเว็บและแจ้งเตือนให้คุณแก้ไขได้ทันที

ทำไมต้องใช้ Broken Link Checker

1. ตรวจจับลิงก์เสีย ป้องกันลิงก์เสียที่อาจทำให้เสีย SEO
2. แจ้งเตือนอัตโนมัติ ไม่พลาดลิงก์เสีย

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน Broken Link Checker

• wordpress.org/plugins/broken-link-checker/

Redirection

ปลั๊กอินนี้ช่วยให้คุณจัดการ 301 redirects และจัดการลิงก์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เพื่อไม่ให้ SEO ของคุณได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง URL นั้นเองครับ

ทำไมต้องใช้ Redirection

1. จัดการ URL เปลี่ยนแปลง ป้องกันการสูญเสียทราฟฟิก
2. ง่ายและสะดวก ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน Redirection

• wordpress.org/plugins/redirection/

WP SEO Structured Data Schema

การใช้ Schema Markup ช่วยให้ข้อมูลในเว็บไซต์ถูกนำเสนอในรูปแบบ Rich Snippets เพิ่มโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏขึ้นบนผลการค้นหาของ Google ในรูปแบบที่ดึงดูดมากขึ้น

ทำไมต้องใช้ WP SEO Structured Data Schema

1. ช่วยให้เว็บไซต์โดดเด่น แสดงข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น
2. เพิ่ม CTR เพิ่มโอกาสการคลิกจากผู้ใช้

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน WP SEO Structured Data Schema

• wordpress.org/plugins/wp-seo-structured-data-schema/

WooCommerce

สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ใช้ WooCommerce บน WordPress, การทำ SEO ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นในผลการค้นหา Google และดึงดูดลูกค้าเข้ามามากขึ้น ซึ่งการใช้ ปลั๊กอิน SEO ที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำ SEO สำหรับ สินค้า และ การจัดการร้าน บน WooCommerce มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณ

ทำไมต้องใช้ WooCommerce SEO

1. เหมาะสำหรับร้านค้าออนไลน์ ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
2. ปรับปรุงการจัดอันดับ เพิ่มโอกาสการค้นหาที่ดีขึ้น

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน WooCommerce

• wordpress.org/plugins/woocommerce/

AMP for WP

AMP ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดบนอุปกรณ์มือถือ โดยเฉพาะในยุคที่ Google ใช้ Mobile-First Indexing ซึ่งหมายความว่า Google จะให้ความสำคัญกับเวอร์ชันมือถือของเว็บไซต์ในการจัดอันดับมากกว่าคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ดังนั้น การที่เว็บโหลดเร็วขึ้นบนมือถือจะไม่เพียงแค่ทำให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น แต่ยังช่วย เพิ่มคะแนน SEO ของเว็บไซต์คุณให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ทำไมต้องใช้ AMP for WP

1. เพิ่มความเร็ว โหลดเว็บเร็วทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป
2. รองรับการทำงานบนมือถือ ปรับปรุงการจัดอันดับใน Google

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน AMP for WP

• wordpress.org/plugins/accelerated-mobile-pages/

LiveChat

Live Chat บนเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ช่วยให้ลูกค้าสามารถถามข้อมูลได้ทันใจ แต่ยังช่วยสร้าง การมีส่วนร่วม (Engagement) กับลูกค้าได้มากขึ้น ทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดและได้รับการบริการที่ดี นอกจากนี้ยังช่วย เพิ่ม CTR (Click-Through Rate) เพราะการมีช่องทางพูดคุยแบบทันทีช่วยกระตุ้นให้ลูกค้า คลิกต่อ หรือทำการซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้นครับ

ทำไมต้องใช้ LiveChat

1. เพิ่มการมีส่วนร่วม ช่วยลูกค้าได้ทันที
2. สร้างความเชื่อมั่น สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน LiveChat

• wordpress.org/plugins/wp-live-chat-software-for-wordpress/

Autoptimize

Autoptimize เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ โหลดเร็วขึ้น โดยการบีบอัดไฟล์ CSS, JS, และ HTML ให้น้อยลง ซึ่งช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บ ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ และยังมีผลดีต่อ SEO ด้วย เพราะ Google จะให้คะแนนเว็บไซต์ที่โหลดเร็วเป็นพิเศษ โดยการใช้ Autoptimize จะช่วยทำให้ประสิทธิภาพ SEO โดยรวมดีขึ้นครับผม

ทำไมต้องใช้ Autoptimize

1. เพิ่มความเร็ว ลดขนาดไฟล์และเพิ่มประสิทธิภาพ
2. ตั้งค่าได้ง่าย ใช้งานได้ง่ายทั้งมือใหม่และมือโปร

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน Autoptimize

• wordpress.org/plugins/autoptimize/

Google XML Sitemaps

Google XML Sitemaps เป็นปลั๊กอินที่ช่วย สร้าง Sitemap อัตโนมัติ สำหรับเว็บไซต์ของคุณ โดยที่คุณไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยากเลย ฟีเจอร์นี้จะทำให้ Google สามารถ crawl และ index หน้าเว็บของคุณได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งการทำให้เว็บไซต์ถูก index อย่างรวดเร็วจะช่วยให้ SEO ของคุณดีขึ้นและเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบนผลการค้นหาของ Google

ทำไมต้องใช้ Google XML Sitemaps

1. การตั้งค่าง่าย ทำให้ Google เข้าถึงเว็บไซต์ได้เร็ว
2. เพิ่มโอกาสในการจัดอันดับ เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา

ดาวน์โหลดปลั๊กอิน Google XML Sitemaps

• wordpress.org/plugins/google-sitemap-generator/

สรุป

การใช้ปลั๊กอิน SEO เหล่านี้บน WordPress ในปี 2025 จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ เพิ่มประสิทธิภาพ SEO และ ติดอันดับสูงขึ้น บน Google ง่ายๆ การเลือกปลั๊กอินที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับความต้องการของเว็บไซต์คุณจะทำให้การทำ SEO เป็นเรื่องง่ายและไม่ซับซ้อนครับ ไม่ต้องรอแล้ว เริ่มใช้ปลั๊กอินเหล่านี้วันนี้ แล้วเว็บไซต์ของคุณจะขึ้นอันดับใน Google ได้ไม่ยากเลยครับ หากต้องการปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์และการทำ SEO เชิญทางนี้ครับ

• บริการ SEO : https://www.moveonmarketing.com/seo
• บริการ เว็บไซต์ : https://www.moveonmarketing.com/wordpress