เช็คลิสต์ 10 อัลกอริทึม

เพื่อนๆ ชาวนักการตลาดทั้งหลาย หรือ เจ้าของธุรกิจ ที่ทำ SEO หรือสนใจเรื่องการจัดอันดับเว็บไซต์ของ Google น่าจะอยากรู้ว่าในปี 2025 มีอัลกอริทึมตัวไหนที่เราต้องโฟกัสกันบ้าง ไปดูอัลกอริทึมหลักๆ ของ Google ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ พร้อมคำแนะนำและตัวอย่างครับ จะพยายามให้เข้าใจง่ายที่สุด เพราะบ้างเรื่องเราก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ซึ่งผมก็ได้รวบรวมมาให้เพื่อเป็นเช็คลิสต์เบื้องต้นให้เพื่อนๆ ครับผม

Google Helpful Content Update

เพื่อนๆ เคยเจอเว็บที่เนื้อหาเหมือนเขียนมาแค่ให้ติด SEO แต่ไม่มีสาระอะไรไหม? Google เค้าพัฒนาอัลกอริทึมนี้มาเพื่อกำจัดเนื้อหาแบบนั้น! ครับหรือเรียกว่าตัดเนื้อหาที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ถ้าเว็บเรามีบทความที่เน้นขายของอย่างเดียวโดยไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ เนื้อหาแบบนี้จะถูกลดอันดับ แต่ถ้าเราทำเนื้อหาที่ช่วยแก้ปัญหาหรือให้ความรู้ตรงจุดกับผู้ใช้ เช่น “10 วิธีทำความสะอาดบ้านแบบประหยัดเวลา” จะช่วยดึงดูดผู้ใช้งานและถูกใจ Google มากขึ้นครับ

Google Helpful Content Update

Google Page Experience Update

ประสบการณ์ในการใช้เว็บสำคัญขนาดไหนกันนะ บอกเลยว่า Google ให้คะแนนเว็บที่โหลดไว ใช้งานง่าย โดยเฉพาะบนมือถือ เช่น ถ้าเพื่อนๆ มีหน้าเว็บที่เต็มไปด้วย Pop-up หรือโหลดช้ามาก ผู้ใช้อาจปิดเว็บทันที ส่งผลให้เว็บถูกลดอันดับ คำแนะนำคือปรับปรุงความเร็วของหน้าเว็บ เช่น ใช้รูปภาพที่ถูก Optimize และลดการใช้สคริปต์ที่ไม่จำเป็นออกไปสะ ปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์ให้โหลดเร็วขึ้น ลดการใช้สคริปต์หนักๆ ปรับ UX/UI ให้เหมาะสมกับการใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะมือถือ เท่านี้ผมว่าก็ทำให้เว็บเร็วขึ้นได้ หรือจะเข้าไปดูคำแนะนำจาก PageSpeed Insights ได้เช่นกันครับ

Page Experience Update

MUM (Multitask Unified Model)

MUM นี่เหมือนเพื่อนฉลาดๆ ที่เข้าใจเราทุกอย่างคนนึงเลยครับ Google ใช้ MUM ช่วยเข้าใจคำค้นหาที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ถ้าเพื่อนถามว่า “จะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาว ควรเตรียมอะไรบ้าง” Google จะสามารถดึงข้อมูลทั้งจากบทความ รูปภาพ หรือแม้แต่วิดีโอที่เกี่ยวข้องมาตอบได้ นั่นหมายความว่าถ้าเรามีคอนเทนต์ที่หลากหลาย เช่น วิดีโอคู่กับบทความ รีวิวสินค้า ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บเราโดดเด่นได้ครับ

Google MUM

Passage Ranking

เนื้อหาทั้งหน้าไม่ต้องดีทุกส่วน ขอแค่มีจุดเด่นก็พอ Passage Ranking ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาเป็นรายส่วน เช่น สมมติว่าเพื่อนเขียนบทความ “วิธีเลือกจักรยานสำหรับมือใหม่” แม้เนื้อหาทั้งหน้าเว็บไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ถ้าส่วนหนึ่งของเนื้อหาตอบคำถามตรงจุด เช่น “จักรยานแบบไฮบริดเหมาะกับการปั่นในเมืองและนอกเมือง” Google ก็สามารถเลือกส่วนนี้ไปแสดงได้นั้นเองครับ

Passage Ranking

RankBrain

เข้าใจคำค้นหาซับซ้อน RankBrain ใช้ Machine Learning เพื่อทำความเข้าใจความหมายของคำค้น เช่น ถ้าเพื่อนค้นว่า “ร้านกาแฟเงียบๆ สำหรับทำงานในกรุงเทพ” RankBrain จะช่วยค้นหาร้านที่มีคุณสมบัติครบ เช่น บรรยากาศสงบ มีปลั๊กไฟ และอินเทอร์เน็ตแรง ดังนั้น หากทำคอนเทนต์ ต้องใส่ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับบริการหรือสินค้าของเรา จะช่วยให้เนื้อหาของเรามีคุณภาพมากขึ้นและทำให้ Google นำเว็บของเรามาจัดอันดับนั้นเอง นั้นหมายความว่าถ้าคำค้นหาที่ซับซ้อนหรือมีความกำกวม จะถูกจัดอันดับโดยพิจารณาจากเจตนาของผู้ค้นหามากขึ้น ทำให้เว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการได้รับการจัดอันดับสูงกว่าแนะนอนครับเพื่อนๆ

RankBrain

E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness)

สูตรลับความน่าเชื่อถือของเนื้อหา ปี2025 นี้ Google E-E-A-T ได้เพิ่มตัว Experience เข้ามาใหม่ เช่น ถ้าเราทำบทความรีวิว “แป้งพัฟตัวไหนดีในปี 2025” แล้วเราได้ทดลองใช้จริง พร้อมแชร์ผลลัพธ์ เช่น ก่อน-หลังใช้ และให้ข้อมูลที่มาจากประสบการณ์ตรง จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและคะแนน SEO ได้มากขึ้นครับ ซึ่งเว็บไซต์ที่ขาดความน่าเชื่อถือหรือไม่ได้มาจากการใช้งานจริงในเรื่องที่เกี่ยวข้องจะไม่ได้ถูกจัดอันดับครับ เนื้อหาที่มีประสบการณ์ตรงจะได้รับความสำคัญมากขึ้นนั้นเอง

E-E-A-T Google

BERT (Bidirectional Encoder Representations from Transformers)

BERT เหมือนเพื่อนที่เก่งภาษาแบบรู้ลึกรู้จริงครับ Google ใช้ BERT เพื่อเข้าใจบริบทของคำค้น เช่น คำว่า “อาหารสำหรับคนที่มีอาการแพ้นม” BERT จะช่วยแยกแยะว่าคำว่า “แพ้นม” เป็นบริบทเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ใช่แค่อาหารทั่วไป ถ้าเพื่อนทำคอนเทนต์ที่ใช้ภาษาชัดเจน ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยเพิ่มโอกาสให้บทความติดอันดับครับ BERT ช่วยให้ Google เข้าใจคำค้นในเชิงลึก หากเนื้อหาของเว็บไม่ครอบคลุมบริบทที่ผู้ใช้ต้องการ อาจถูกลดอันดับได้

Google BERT

SpamBrain

Google ใจดี แต่ไม่ใจอ่อนเรื่อง Spam นะจ๊ะ SpamBrain มาช่วยกำจัดเว็บไซต์ที่ใช้เทคนิคโกง เช่น สร้างลิงก์สแปมจำนวนมาก หรือการยัดคีย์เวิร์ดแบบไม่เป็นธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีบทความที่เขียนว่า “รองเท้ากีฬา” ซ้ำทุกประโยค หรือใช้ลิงก์จากเว็บคุณภาพต่ำ Google จะลดอันดับเว็บนั้นอย่างแน่นอนครับ เว็บไซต์ที่ใช้กลยุทธ์ Spam เช่น ลิงก์คุณภาพต่ำหรือคีย์เวิร์ดยัดเยียด จะถูกลดอันดับหรืออาจถูกแบนจากผลการค้นหาเลยก็ได้นะ ถ้าจะให้เรียกว่าเป็นการทำ SEO แบบ Black Hat SEO ครับ

SpamBrain

Google Lens Integration

ค้นหาด้วยภาพ ไม่ใช่แค่คำค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด Google Lens จะช่วยให้เราค้นหาสิ่งที่เรามองเห็นได้ เช่น หากถ่ายรูปกระเป๋าใบหนึ่งแล้วค้นหา Google Lens จะดึงข้อมูลสินค้า ร้านค้า หรือบทความที่เกี่ยวข้องมาให้ ดังนั้น หากเพื่อนๆ ขายของออนไลน์ ต้องเตรียมรูปภาพที่ชัดเจน พร้อมคำอธิบายสินค้าให้ครบถ้วนนะ ธุรกิจออนไลน์ที่ไม่มีภาพสินค้าและคำอธิบายที่ชัดเจน อาจเสียโอกาสในการดึงดูดผู้ใช้งานที่ค้นหาผ่าน Google Lens

Google Lens Integration

Google Local Search

ใครทำธุรกิจท้องถิ่น ต้องรู้ไม่งั้นพลาดนะครับ Google ปรับปรุง Local Search ให้แม่นยำขึ้น เช่น หากผู้ใช้ค้นหา “ร้านอาหารใกล้ฉัน” Google จะดึงข้อมูลจากรีวิว รูปภาพ และเวลาทำการมาแสดง ถ้าธุรกิจของคุณมีข้อมูลครบและได้รับรีวิวที่ดี ก็จะได้เปรียบใน Local Search อย่างมากครับ ธุรกิจที่ไม่ได้อัปเดตข้อมูลหรือไม่มีรีวิวจากลูกค้า อาจเสียโอกาสในการถูกแสดงในผลการค้นหาแบบท้องถิ่น อยากให้เพื่อนศึกษาต่อในเรื่องของ Google Business กันนะครับจะช่วยเพื่อนๆ ได้แน่นอนครับ

Local Search Update

สรุป: SEO ในปี 2025 ไม่ใช่เรื่องแค่เทคนิคแล้ว แต่เป็นเรื่องของการเข้าใจผู้ใช้งานจริง ถ้าเพื่อนๆ เน้นทำเนื้อหาที่ดี มีคุณค่า และใช้งานง่าย รับรองว่าเว็บจะขึ้นอันดับได้แบบยั่งยืนแน่นอนครับผม สู้ๆ นะครับทุกคน สำหรับเพื่อนๆ ท่านไหนอยากจะปรึกษาเรื่องการทำ SEO ให้หากต้องการใช้บริการเรามาที่นี้เลย www.moveonmarketing.com/seo